1. ขอประวัติการรักษาเพื่อนำไปใช้ประกอบการรักษาต่อ / เกษียณอายุก่อนกำหนด
1. ขอประวัติการรักษาเพื่อนำไปใช้ประกอบการรักษาต่อ / เกษียณอายุก่อนกำหนด
1.1 เจ้าของประวัติหรือบริษัทประกันชีวิตมาติดต่อด้วยตนเอง ติดต่อทางโทรศัพท์ ยกเว้น บริษัทประกันชีวิต,สำนักงานประกันสังคมส่งหนังสือมาทางไปรษณีย์
1.2 เขียนใบคำร้องขอประวัติการรักษา พร้อมแนบ สำเนาบัตรประชาชน / สำเนาบัตรประจำตัวผู้ป่วย/สำเนาบัตรข้าราชการ (พร้อมสำเนาถูกต้อง)
1.3 กรณีเจ้าของประวัติไม่ได้มาเอง และมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมาขอและรับประวัติแทน ผู้ขอแทนจะต้องเขียนใบคำร้องขอประวัติการรักษา และเตรียมเอกสารประกอบการขอ ดังนี้
หมายเหตุ : กรณีที่ต้องจัดทำประวัติด่วน แล้วเสร็จภายใน 1 วัน ผู้ขอประวัติจะต้องมีหนังสือขอประวัติของผู้ป่วยจากทางโรงพยาบาลที่ทำการรักษา หรือมอบอำนาจให้ผู้ขอมาติดต่อรับเอกสารแทน
2. สำนักงานประกันสังคม ขอหลักฐานการรักษาพยาบาล จะมีหนังสือออกจากสำนักงานประกันสังคม พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนเจ้าของประวัติ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
3. ประกันชีวิต จะมี 2 แบบ คือ
3.1 บริษัทประกันชีวิตจะส่งหนังสือมาขอ โดยจะแนบเอกสารประกอบ คือ
3.2 เจ้าของประวัติมาขอด้วยตนเอง โดยจะแนบเอกสารประกอบ คือ
หมายเหตุ :
– การขอสำเนาประวัติการรักษาเพื่อทำประกันชีวิต จะต้องมีค่าธรรมเนียม 300 บาท ส่งเอกสารและค่าธรรมเนียมให้ แผนกการเงิน เพื่อออกใบเสร็จ
– ระยะเวลาดำเนินการ 5 วันทำการ
– เอกสารไม่ถูกต้อง หรือไม่ครบถ้วน ส่งกลับตามข้อ 1.1
4. เตรียมสำเนาประวัติฯผลการรักษาต่างๆ เพื่อเสนอผู้มีอำนาจลงนาม ดังนี้
4.1 แพทย์ผู้รักษาลงนาม และ สรุปประวัติการรักษา ดังนี้
4.2 ผู้บริหารหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ลงนาม ดังนี้
5. ตรวจสอบความถูกต้อง ความครบถ้วนสมบูรณ์ของเอกสาร ก่อนส่งมอบให้ผู้ขอ
6. ติดต่อประสานงานผู้ขอ ก่อนถึงวันนัดรับประวัติการรักษา 1 วัน
7. กรณีส่งไปรษณีย์จะส่งแบบลงทะเบียนเท่านั้น (ประกันชีวิต ประกันสังคม)
8. บันทึกการขอประวัติการรักษาและสรุปส่งแผนกบัญชี สิ้นสุดทุกวันที่ 25 ของทุกเดือน
9. จัดเก็บเอกสารขอประวัติการรักษาย้อนหลัง 1 ปี